Tag Archives: Greek goddess

เทพีเฮสเทีย (Hestia)

เทพีเฮสเทีย(Hestia) หรือเทพีเวสต้า(Vesta) ในอารยธรรมของโรมัน เป็นเทพีพรหมจรรย์ และเตาไฟในครัวเรือนในศาสนาและเทพนิยายกรีกโบราณ นางเป็นบุตรสาวคนโตของไททันโครนอสและรีอา เป็นพี่สาวของฮาเดส โพไซดอน ซูส เฮร่า และดีมีเทอร์ เป็นลูกคนแรกที่ถูกโครนอสผู้เป็นพ่อกลืนลงท้อง เมื่อซูสมาปลดปล่อยพี่น้องเฮสเทียในฐานะที่เป็นคนแรกที่ถูกกลืนเข้าไป เธอก็เป็นคนสุดท้ายที่ถูกนำออกมา และได้รับการชื่อว่าลูกคนโตและลูกคนเล็กที่สุดในบรรดาทั้ง 6 คน เฮสเทียเป็นเทพีที่มีความเป็นอยู่เรียบง่าย ไม่มีความโลดโผนเหมือนคนอื่นๆ และไม่ได้เป็นหนึ่งใน 12 เทพและเทพีแห่งโอลิมปัสที่สำคัญของวิหารแพนธีออนของกรีกเพราะนางได้สละบัลลังก์ให้กับเทพไดโอนิซูส(Dionysus)

เฮสเทียเป็นเทพีแห่งเตาไฟ บ้าน และครอบครัว ในสมัยกรีกโบราณเตาไฟเป็นจุดศูนย์กลางของชีวิตในบ้านที่ซึ่งครอบครัวจะมารวมตัวกันเพื่อแบ่งปันอาหารและประกอบพิธีกรรม บ้านไหนที่ไฟยังคงลุกอยู่มันจะเป็นสัญลักษณ์ของการมีบทบาทของเฮสเทียในการเป็นประธานของกิจกรรมในบ้าน ความอบอุ่น ความปลอดภัยของครัวเรือน และความเป็นอยู่ที่ดี เฮสเทียจะได้รับเกรียรติให้เป็นผู้พิทักษ์ชีวตในบ้าน ชื่อของนางมาจากคำภาษากรีก “เฮสเทีย” หมายถึงเตาไฟหรือเตาผิง

โดยทั่วไปแล้วเฮสเทียจะถูกมองว่าเป็นเทพธิดาที่ถ่อมตัว อ่อนโ่ยน และสง่างาม สวมผ้าคลุมหน้าแต่งกายสุภาพเรียบร้อย นั่งเกาอี้ไม้เรียบง่ายหรือยืนข้างเตาด้วยท่าทางที่เรียบร้อย และเงียบสงบขณะดูแลกองไฟ เฮสเทียได้รับความเคารพนับถือในทุกครัวเรือน และครอบครัวจะสวดมนต์และเครื่องบูชาให้เธอก่อนรับประทานอาหารและงานสำคัญอื่นๆ

ในบริบททางศาสนาที่กว้างกว่า เฮสเทียถือเป็นหนึ่งในเทพเจ้าองค์แรกและองค์สุดท้ายของเทพเจ้าโอลิมเปีย เมื่อเทพเจ้าถูกแบ่งออกเป็นสามชั่วอายุ เฮสเทีย ซูส ฮาเดส เฮรา เดมีเทอร์ และโพไซดอน อยู่ในยุคเริ่มแรกของเทพโอลิมเปียแห่งเทือกเขาโอลิปัส เฮสเทียเป็นหนึ่งในสามเทพีพรหมจารี ไม่เคยแต่งงานหรือมีลูกเลยโดยมีเทพีเอเธน่า(Athena) และเทพีอาร์เทมิส(Artemis) ด้วย โพไซดอนและอพอลโลต้องการแต่งงานกับนางแต่เฮสเทียก็ปฏิเสธทั้งคู่ ซูสให้สิทธิ์แกนางในการคงความเป็นพรหมจารีชั่วนิรันดร์

แม้จะเป็นเทพีผู้มีความสำคัญ แต่เฮสเทียก็ไม่ได้มีบทบาทสำคัญในตำนานมากมาย ความสำคัญของเธออยู่ที่บทบาทของเธอในฐานะผู้พิทักษ์บ้านและครอบครัว โดยเน้นถึงคุณค่าของครอบครัวและชีวิตในบ้านของสังคมกรีกโบราณ

เทพีดีมีเทอร์ (Demeter)

ดีมีเทอร์(Demeter) หรือ เซเรส(Ceres)เทพเจ้าในความเชื่อของโรมัน ได้รับขนานนามว่าเทพีแห่งเกษตรกรรม ความอุดมสมบูรณ์ และการเก็บเกี่ยว นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับวงจรชีวิต การเติบโตและฤดูกาลอีกด้วย ในตำนานเทพเจ้ากรีกดีมีเทอร์เป็นบุตรสาวของไททันโครนัสและรีอา เป็นพี่สาวของซูส ฮาเดส โพไซดอน เฮร่า และเฮสเทีย

เทพีดีมีเทอร์มันจะถูกพรรณนาว่าเป็นหญิงสาวที่เป็นผู้ใหญ่ บางครั้งก็สวมมงกุฎด้วยรวงข้าวหรือถือฟ่อนข้าวสาลีไว้ในมือ เทพีดีมีเทอร์ยังเกี่ยวข้องกับความอุดมสมบูรณ์ซึงนางเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ การบูชาดีมีเทอร์แพร่หลายในสมัยกรีกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนเกษตรกรรมที่ผู้คนอาศัยความอุดมสมบูรณ์ของผืนดิน มีเทศกาลจัดขึ้นเพื่อเทพีดีมีเทอร์และลูกสาวของนาง

ตำนานที่โด่งดังที่สุดเกี่ยวกับเทพีดีมีเทอร์ เกี่ยวข้องกับการลักพาตัวลูกสาวของนางนามว่า เพอร์เซโฟเน่(Persephone)โดยเทพฮาเดส(Hades)เทพเจ้าแห่งยมโลก เทพีดีมีเทอร์ตามหาลูกสาวของนางไปทั่วทุกดินแดนแต่ก็ไม่พบ ด้วยความโศกเศร้าของนางทำให้โลกสิ่งมีชีวิตเริ่มหยุดการเจริญเติบโตและตาย โลกอาจต้องเผชิญกับการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต ซูสได้ส่งเทพเฮอร์เมส(Hermes)ไปยังยมโลกเพื่อให้ฮาเดสส่งตัวเพอร์เซโฟเน่กลับมา ฮาเดสตกลงที่จะปล่อยนางหากนางไม่ได้กินอะไรเลยในขณะที่อยู่ในยมโลก แต่เพอร์เซโฟเน่ได้กินเมล็ดทับทิมจำนวนเล็กน้อยทำให้นางไม่สามารถแยกออกจากยมโลกได้ ในที่สุดได้มีการประนีประนอมให้เพอร์เซโฟเน่ได้ใช้เวลาส่วนหนึ่งกับเทพีดีมีเทอร์ผู้เป็นมารดาซึ่งทำให้ฤดูกาลบนโลกเป็นฤดูใบไม้ผลิพืชพันธุ์งอกงามและฤดูร้อน เมื่อเฟอร์เซโฟเน่กลับมายังยมโลกเทพีดีมีเทอร์ก็คร่ำครวญถึงลูกสาวจึงทำให้เกิดฤดูหนาว

เช่นเดียวกับเทพเจ้าของโอลิมเปียดีมีเทอร์เป็นอมตะและทรงพลังมาก เธอเป็นผู้ควบคุมการเก็บเกี่ยวและการปลูกธัญพืช เทพีดีมีเทอร์สามารถทำให้พืชเติบโต หรือไม่เติบโตได้ และควบคุมสภาพฤดูกาล นอกจากนี้ยังสามารถควบคุณสภาพอากาศและทำให้ผู้คนหิวโหยได้

เทพีเฮร่า (Hera)

          เทพีเฮร่า(Hera) หรือจูโน่(Juno)ในโรมัน ในตำนานกรีกเฮร่าคือราชินีของเทพแห่งโอลิมปัสและยอดเขาโอลิมปัส เป็นเทพีแห่งการแต่งงาน, ผู้หญิง, ครอบครัว, และเทพีแห่งการคลอดลูก เฮร่าเป็นทั้งพี่สาว และภรรยาของเทพเจ้าซูส และเป็นลูกสาวของไททันโคนอสและรีอา ถูกโครนอสผู้เป็นพ่อกลืนลงไปในท้องเหมือนเหล่าพี่ๆของนาง

          ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด เฮร่ามีความงดงามที่สุด ซูสหลงรักนางตั้งแต่แรกเจอ ซูสพยายามตามอ้อนวอนขอให้เฮร่าแต่งงานกับเขาถึง 300 ปี แต่เฮร่าก็ไม่ใจอ่อนให้กับความพยายามของซูส ซูสจึงสร้างอุบายหลอกเฮร่า ด้วยกันแปลงกายเป็นนกกาเหว่าที่บาดเจ็บ เฮร่าได้ช่วยเหลือนกกาเหว่าตัวนั้นและดูแลอย่างดีแล้วซูสที่แปลงกายเป็นนกกาเหว่าก็ปรากฎตัวขึ้น ทำให้เฮร่าจำต้องแต่งงานกับซูส

           ลักษณะเด่นของนางคือ ขี้หึงและพยาบาทคนที่ทำให้เธอไม่พอใจ โดยเฉพาะเหล่าๆเมียน้อยของซูสและลูกๆของพวกนางไม่ว่าพวกนางจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจเป็นเมียของซูสก็ตาม ภาพลักษณ์ของเฮร่ามักจะแสดงให้พระนางดูสง่างามผ่าเผย สวมมงกุฎบางครั้งก็สวมผ้าคลุมเหมือนผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว สัตว์ประจำตัวนาง ได้แก่ วัว นกกาเหว่า และนกยูง บางครั้งก็จะถือผลทับทิมซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความอมตะ

           เฮร่าเป็นเทพีแห่งการแต่งงานและการคลอดบุตร และตำนานส่วนใหญ่ของนางคือการแต่งงานกับซูสน้องชายของนาง แต่ซูสก็นอกใจนางไปมีลูกกับเทพธิดาและมนุษย์ เฮร่าซึ่งเป็นคนขี้หึงอยู่แล้วก็ตามไปรุกรานพวกนางและลูกๆ ของพวกนาง เฮร่านางมีลูกกับซูสได้แก่ แอเรส(Ares), อิเลเทีย(Eileithyia), ฮีบี(Hebe), เฮเพสตุส(Hephaestus), อีริส(Eris)